มี
คำกล่าวว่าเงินเฟ้อคือศัตรูของเงินออม
และการลงทุนที่สามารถชนะเงินเฟ้อมีหลายรูปแบบได้แก่
หุ้นหรือการเป็นเจ้าของกิจการที่มั่นคง ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบันหากนักลงทุนรายย่อยต้องการที่จะมีส่วนเป็นเจ้าของกิจการที่มีขนาด
ใหญ่ก็สามารถทำได้ง่ายผ่านการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
หรือกองทุนรวมตราสารทุนที่ระดมเงินจากรายย่อยไปซื้อหุ้นอีกต่อหนึ่ง
สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นนอกจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง
แล้ว นักลงทุนสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้นผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
บทความนี้จึงขอกล่าวถึงลักษณะและการซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็น
อีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน
ลักษณะของกองทุนอสังหาริมทรัพย์
กอง
ทุนอสังหาริมทรัพย์คือ กองทุนที่จัดตั้งโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
(บลจ.) เพื่อนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
โดยมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย อาทิเช่น บ้านเช่า สนามบิน โรงแรม
ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงงาน และอาคารโกดังสินค้า เป็นต้น
ผลประโยชน์ที่กองทุนอสังหาฯ จะได้รับนั้นคือ
ค่าเช่าซึ่งเกิดจากการที่ลูกค้ามาเช่าอาศัยหรือประกอบธุรกิจ
และการขายสิทธิในอสังหาริมทรัพย์นั้นให้กับผู้อื่น
โดยที่กองทุนจะให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนในรูปแบบของเงินปันผล (Dividend) และส่วนต่างของราคาเวลาซื้อขายกองทุน (Capital Gain) โดย
ความถี่ในการจ่ายเงินปันผลของกองทุนอสังหาฯ จะมีอยู่สามแบบคือ รายไตรมาส
รายครึ่งปี และรายปี ซึ่งกองทุนอสังหาฯ
ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาส
กองทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลักๆ คือ แบบซื้อกรรมสิทธิมาเป็นเจ้าของ (Freehold) และแบบสิทธิการเช่าหรือเซ้งที่มีกำหนดระยะเวลาในการนำมาใช้หาผลประโยชน์ประมาณ 20 – 30 ปี (Leasehold) โดยแบบ Leasehold นั้น
เมื่อหมดอายุสัญญาก็จะต้องคืนสิทธิการเช่าในการหาผลประโยชน์จากอสังหาริม
ทรัพย์นั้นให้กับเจ้าของที่แท้จริงไป
ซึ่งมูลค่าของกองทุนที่ครบกำหนดระยะเวลานี้จะมีค่าเป็นศูนย์
แตกต่างกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Freehold ที่จะไม่มีวันหมดอายุสัญญา เนื่องจากเป็นการซื้ออสังหาฯ มาเป็นเจ้าของ
การซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์
การซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถแบ่งได้เป็นสองช่วง โดยในช่วงแรกเป็นการเสนอขายกองทุนใหม่ (ช่วง IPO) โดย
ทางกองทุนจะเปิดให้ประชาชนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ผ่านทาง
ตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เช่น
สาขาของธนาคารที่เป็นตัวแทน หรือ บลจ.โดยตรง
หลังจากหมดช่วงเวลานี้แล้วทางบลจ.ที่ดูแลกองทุนอสังหาฯ
จะนำกองทุนเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุน
ซึ่งจะช่วยให้ซื้อขายกองทุนได้ง่ายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดหรือระบบอินเตอร์
เน็ต โดยเมื่อมีผู้ต้องการซื้อกองทุนอสังหาฯ
ในตลาดหลักทรัพย์เป็นจำนวนหน่วยลงทุนเท่าใด
ก็ต้องมีผู้ต้องการขายเป็นจำนวนเท่ากัน
คำสั่งซื้อกับคำสั่งขายจึงจะจับคู่ทำรายการสำเร็จได้
โดยผู้ที่ต้องการซื้อสามารถตั้งราคาที่ต้องการจะซื้อได้เองโดยผ่านเจ้า
หน้าที่การตลาด หรือผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต
เมื่อมีผู้ต้องการจะขายในราคาที่ผู้ซื้อตั้งเอาไว้เมื่อใด
คำสั่งซื้อนั้นก็จะมีผลการทำรายการสำเร็จ และหน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาฯ
พร้อมสิทธิในการรับประโยชน์ต่างๆ
นั้นก็จะเปลี่ยนเจ้าของหลังการทำรายการนั้นสำเร็จทันที
ในทางกลับกันหากมีผู้ที่ต้องการขายตั้งราคาขายเอาไว้
จะสามารถขายได้สำเร็จก็ต่อเมื่อมีผู้ที่ต้องการจะซื้อ ณ
ราคาที่ตั้งเอาไว้เท่านั้น ทั้งนี้
ราคาที่สามารถตั้งได้จะเป็นราคาที่ไม่สูงและไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของราคาปิดในวันก่อนหน้า
จากรูป หากว่าต้องการจะซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ตัวนี้ในตลาดหลักทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ก็ต้องซื้อ 1,000 หน่วยที่ราคา 8.35 บาท และ 10,900 หน่วยที่ราคา 8.40 บาท เนื่องจากราคาที่ 8.35 บาท มีหน่วยลงทุนเสนอขายไม่เพียงพอเพื่อซื้อเป็นเงินหนึ่งแสนบาท นอกจากนี้ หากต้องการซื้อถึง 300,000 บาท ก็จะต้องไล่เก็บตั้งแต่ราคา 8.35 บาท ไปจนถึง 8.50 บาท
เพื่อที่จะลงทุนให้ได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
จะเห็นได้ว่าถ้าหากนักลงทุนต้องการลงทุนเป็นจำนวนเงินในหลักล้านหรือสิบล้าน
บาท ก็อาจกล่าวได้ว่ากองทุนอสังหาฯ
กองนี้มีสภาพคล่องไม่เพียงพอในการลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ต้องการดังกล่าว
ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรคำนึงประกอบการเลือกลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนอสังหาริมทรัพย์เหมาะกับนักลงทุนประเภทไหน
หากกล่าว
ว่าการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ
และการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนตราสารทุนเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความ
เสี่ยงได้สูง เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนที่สูงแล้วนั้น
กองทุนอสังหาริมทรัพย์ก็จะเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง
เพราะนักลงทุนมีโอกาสได้รับเงินปันผลคล้ายกับดอกเบี้ยที่ได้รับจากตราสาร
หนี้ แต่จำนวนเงินที่ได้รับอาจไม่เท่ากันทุกงวด
โดยขึ้นอยู่กับรายได้ของกองทุนอสังหาฯ
นอกจากนี้ราคาของกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีลักษณะผันผวนคล้ายกับหุ้น
เพียงแต่หุ้นจะมีความผันผวนที่สูงกว่ามาก
ด้วยเหตุนี้แล้วกองทุนอสังหาริมทรัพย์จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรายรับ
จากเงินปันผลที่สม่ำเสมอ
และยังต้องการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในบางช่วงเวลาอีกด้วย
นอก
จากนี้การลงทุนเพื่อเป้าหมายทางการเงินที่ดีและปลอดภัยนั้น
ควรจะต้องมีการกระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ
โดยที่มีสินทรัพย์ลงทุนหลายอย่าง เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน
อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าโภคภัณฑ์
การที่เรากระจายความเสี่ยงเข้าไปในสินทรัพย์ลงทุนหลายๆ ชนิดนั้น
จะทำให้พอร์ตการลงทุนมีความผันผวนที่น้อยลงไปเมื่อเทียบกับพอร์ตการลงทุน
ทั่วไปที่มีเพียงตราสารหนี้และตราสารทุน
ดังนั้นการแบ่งสัดส่วนมาลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นอีกหนึ่งทาง
เลือกในการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง
และลดความผันผวนในการลงทุน
ก่อนการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนควรจะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน
หากเป็นการลงทุนระยะยาวที่มุ่งเน้นการรับเงินปันผลที่สม่ำเสมอเป็นหลัก
และต้องการกระจายความเสี่ยงไปในการลงทุนทางเลือกนอกเหนือจากกองทุนตราสาร
หนี้และกองทุนหุ้นแล้ว
กองทุนอสังหาริมทรัพย์จะเป็นทางเลือกในการลงทุนอันดับต้นๆ
เนื่องจากระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก
โดยที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย
และความสะดวกในการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จะนำเงินไปลงทุนโดย
ละเอียด ทั้งสินทรัพย์ที่ไปลงทุน นโยบายการจ่ายปันผล อัตราการจ่ายปันผล
และสภาพคล่องของกองทุนที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2555
โดย วรินทร์ สุรพลชัยฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ธนาคารกสิกรไทย
0 ความคิดเห็น :