Like us

วิธีการ Stop loss เพื่อรักษาเงินลงทุน


 
วิธีการ Stop loss เพื่อรักษาเงินลงทุน

ตามปกติแล้ววิธีการ Stop loss มักจะใช้เพื่อจุดประสงค์ใน 2 กรณี กล่าวคือ

1. ใช้เพื่อหยุดการขาดทุน เพื่อปกป้องเงินลงทุนเริ่มต้น และ

2. ใช้เพื่อปกป้องผลกำไรที่กำลังลดน้อยลง

ซึ่งในกรณีที่เรานำหลักการ Stops ไปใช้งานร่วมกับอินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือวิเคราะห์ทาง เทคนิคที่มีอยู่ เราก็จะสามารถแบ่งชนิดของการ Stops ได้ออกเป็น

Initial stop

Break-even stop

Trailing stop



ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่นำมาใช้งาน

สำหรับในส่วนที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ จะเป็นการนำหลักการ Stop loss มาใช้งานร่วมกับ ปริมาณเงินลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียได้ หรืออาจเรียกว่าการ Limit loss ของจำนวนเงินที่ใช้สำหรับการลงทุน ณ เวลานั้น

< สามารถพิจารณาได้ตามขั้นตอนตัวอย่างดังต่อไปนี้ >

ขั้นตอน การกำหนด Limit loss จากเงินลงทุนเริ่มต้น

กำหนดให้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 50,000 บาท

กำหนด limit loss ไว้ที่ 2% ของเงินลงทุน

ดังนั้น จำนวนเงินที่สามารถยอมรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียได้ สามารถคำนวณได้ดังนี้

จำนวนเงินที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้  = เงินลงทุนเริ่มต้น * Limit loss (2%)

= 50,000*2/100

= 1,000 บาท

ขั้นตอน การประยุกต์ใช้งาน เพื่อคำนวณหาจำนวนหุ้นที่สามารถเข้าซื้อได้

คัดเลือกหุ้นที่จะเข้าลงทุนและกำหนดราคาหุ้นที่เหมาะสมไว้

ในกรณีนี้สมมุติให้ราคาหุ้นที่จะเข้าซื้อมีราคาที่เหมาะสมที่ 5 บาทต่อหุ้น

กำหนดจุด Stop loss ไว้...ในกรณีที่ราคาหุ้นลดต่ำลงไปที่ราคา 4 บาทต่อหุ้น

โดยการขายหุ้นออกไปทั้งหมด (ตามที่ได้วางแผนการลงทุนเอาไว้)

การ Stop loss ในครั้งนี้จะยอมรับการขาดทุนได้เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท

ดังนั้น จำนวนหุ้นที่สามารถเข้าซื้อได้ สามารถคำนวณได้ดังนี้

= จำนวนเงินที่สามารถยอมรับความสูญเสียได้ / (ราคาซื้อ – ราคา Stop loss)

= 1,000 / (5-4)

= 1,000 / 1

= 1,000 หุ้น

โดยสรุปคุณสามารถซื้อหุ้นได้จำนวน 1,000 หุ้น ที่ราคา 5 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทโดยได้กำหนดจุด Stop loss ไว้ที่ราคา 4 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อราคาหุ้นลดลงมาถึงราคาดังกล่าว คุณก็สามารถขายหุ้นออกได้ทันที ตามแผนการลงทุนที่ได้วางไว้ และในกรณีนี้คุณจะขาดทุนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,000 บาท (จากการที่ได้กำหนด Limit loss ไว้)

Credit >> http://www.tasimplified.com

0 ความคิดเห็น :

ข่าวการศึกษา