Like us

สรุปจุดที่ต้องดูในงบดุล

 

สรุปจุดที่ต้องดูในงบดุล

 
สรุปจุดที่ต้องดูในงบดุล
ดูส่วนของสินทรัพย์

1. สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Asset) เป็นตัวทำเงินให้กับธุรกิจ บริษัทที่ดีควรมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียนมาก ยิ่งส่วนต่างมาก ยิ่งดี ตัวเลขนี้คำนวนได้เรียกว่า current ratio (อัตราส่วนหมุนเวียน) = current assets (สินทรัพย์หมุนเวียน) / current liabilities (หนี้สินหมุนเวียน) ถ้ามีค่ามากกว่า 1 เยอะๆ จะดี โดยที่ ทรัพย์สินหมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน = ทุนดำเนินกิจการ (Working Capital)  ยิ่งมีมากยิ่งดี

Read More »

0 ความคิดเห็น :

การตีความงบการเงิน


 
บทนำ ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับงบการเงิน

งบการเงินสำคัญมี 3 ชนิด คือ

1) งบกำไรขาดทุน บอกเราว่า บริษัททำกำไรเท่าใดในช่วงเวลาหนึ่งๆ

2) งบดุล บอกเราว่า บริษัทสินทรัพย์รวม หนี้สินเท่าใด และมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทในวันนั้นๆเป็นเท่าใด

3) งบกระแสเงินสด ให้ข้อมูลการไหลเข้า-ออกของเงินสดของธุรกิจ

Read More »

0 ความคิดเห็น :

การเลือกลงทุนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ

 

การเลือกลงทุนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
สำหรับผู้ที่ลงทุนในตลาดหุ้นก็คงจะมีความกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจซบเซาอันเกิดจากทั้งต่างประเทศและปัญหาการเมืองในประเทศ ที่เห็นต่างประเทศทยอยถอนการลงทุนตั้งแต่เกิดเหตุความวุ่นวายทางการเมืองในเดือนเมษายนเป็นต้นมามีมูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านบาท ไปแล้ว

ทำให้ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจและนักลงทุนลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็อยากจะเน้นว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยยังดีอยู่และมีการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาครั้งรุนแรงในปี 2552 ที่ผ่านมา

ในวันนี้จึงจะขอพูดถึงว่าในวัฏจักรของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้น ธุรกิจจะมีการฟื้นตัวเป็นอย่างไร ซึ่งเนื้อหาสาระส่วนหนึ่งได้คัดลอกมาจากหนังสือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องเคล็ด (ไม่ลับ) สู่อิสรภาพทางการเงิน ตอนรู้จังหวะการลงทุนเล่ม 4 มาเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ของสาธารณชนนะคะ

Read More »

0 ความคิดเห็น :

EV / EBITDA คืออะไร




EV / EBITDA คืออะไร

คือยังงี้นะครับ พยายามมองค่าตัวเลขต่างๆให้เป็นแบบพ่อค้าหรือนักธุรกิจมอง อย่ามองเป็นนักบัญชีหรือนักคณิตศาสตร์ครับ

EV/EBITDA คืออัตราส่วนทางการเงินอย่างนึง ที่เกิดจาก

EV หรือ Enterprise value แปลว่าส่วนของเจ้าของ(คล้ายๆกับ equity นั่นแหละครับ แต่เป็น equity ที่ราคาตลาดเลย) ถ้าคุณ จขกท อยากจะ take over สักบริษัทนึง ผมสมมติ AOT
ผมก็ต้องซื้อหุ้น AOT ให้ครบ 100% หรือพูดง่ายๆว่า ราคาหุ้นxจำนวนหุ้น ก็คือ market cap นั่นแหละครับ. ซึ่ง AOT market cap ประมาณ 80,000ล้าน
คราวนี้ผม take over บริษัทได้ ผมก็ได้ทุกอย่างของบริษัทแหละครับ ทั้งเงินสด ลานบิน รวมทั้งหนี้สินด้วย
ดังนั้นผมก็ต้องมาจ่ายหนี้ให้บริษัทด้วย เช่น AOT มีหนี้ 70,000 ล้าน market cap 80,000ล้าน พอผมใช้เงิน 80,000ล้านซื้อบริษัทแล้ว ผมก็ต้องจ่ายอีก 70,000 เพื่อใช้หนี้ให้บริษัทด้วย สรุปผมต้องจ่ายเงิน 150,000ล้านเพื่อซื้อ AOT

แต่เดี๋ยวก่อน AOT มีเงินในบริษัทราวๆ 20,000 ล้าน ถ้าผมได้บริษัทนี้ผมก็สามารถเอาเงินสดทั้งก้อนไปช่วยจ่ายหนี้ได้ หรือจ่ายแค่ 130,000ล้าน

สรุปง่ายๆว่า EV คือเงินที่ผมต้องจ่ายเพื่อเป็นเจ้าของจริงๆ


Read More »

0 ความคิดเห็น :

Hedging คืออะไร



Hedging คืออะไร




Hedge โดยรากศัพท์แล้วคือการป้องกันความเสี่ยงคล้ายๆ กับการซื้อประกันแหละครับแต่ว่าเน้นไปในเรื่องของการลงทุน 

เช่นเมื่อนักลงทุนได้ทำการซื้อหุ้น ปตท เอาไว้เพื่อต้องการปันผล ในขณะเดียวกันก็ต้องการป้องกันความเสี่ยงในการที่หุ้น ปตท จะมีราคาปรับตัวลดลงซึ่งจะทำให้เมื่อขายออกแล้วเกิดผลขาดทุนขึ้น วิธีคือ นักลงทุนจะต้องซื้อ Call Option ของหุ้น ปตท อีกเป็นการคู่กัน ซึ่งหากราคาของหุ้น ปตท ปรับตัวสูงขึ้น จขกท จะได้กำไรจากหุ้นแม่ของ ปตท เองแต่จะขาดทุนจากการซื้อ option แต่ในทางกลับกันคือ หากราคาของหุ้น ปตท ปรับตัวลดลง นักลงทุนจะขาดทุนจากราคาหุ้นแม่ของ ปตท แต่ได้กำไรจาก option เป็นการชดเชย 

Read More »

0 ความคิดเห็น :

การเลือกหุ้น

การเลือกหุ้น



ช่วงนี้ ในระหว่างที่หุ้นกำลังขึ้น คงมีนักลงทุนรายย่อยหลายๆ รายที่เริ่มทะยอยขายหุ้นออกไป เมื่อหุ้นเริ่มร่อยหรอในมือ บางท่านก็อาจจะปิดจอปิดคอมพ์ ไม่ดูราคาหุ้นไปเลย แต่หลายๆ ท่านที่โดยปกติแล้วต้องมีหุ้นติดพอร์ตอยู่บ้าง ก็อาจจะพยายามควานหาหุ้นที่มีราคาไม่แพงมากนัก ประกอบกับสืบเนื่องจากการตอบกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป เรื่องการเลือกหุ้นเอาไว้ ผมเลยขอนำมาเก็บไว้ที่บล็อกนี้ด้วยเลย โดย

สรุปแล้วในการเลือกหุ้นนั้นเรามีสิ่งที่ต้องดูอยู่หลายประการ เช่น

1. บริษัท ที่ ธรรมาภิบาล ไม่ดี อย่าลงทุน อย่าซื้อ
ขึ้นชื่อว่า อะไรก็ขึ้นอยู่กับคน บริษัทที่ดำเนินกิจการด้วยเจ้าของหรือผู้บริหารที่ไม่ชอบมาพากล เราควรจะหลีกเลี่ยง เนื่องจากเขาเหล่านั้นอาจจะสร้างสิ่งลวงตาต่างๆ ให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย กำไร หนี้สิน ต่างๆ เป็นต้นที่เอื้ออำนวยให้งบการเงินออกมาดูดี ตลอดจนการให้ข่าวต่างๆ ที่มีผลต่อราคาหุ้นมากเกินไปด้วยความตั้งใจ แบบนี้ต้องแนะนำให้เลี่ยงหลีกไว้เป็นดี

Read More »

0 ความคิดเห็น :

P/E P/BV และ ROE คืออะไร

 

ถ้าใครได้ลงทุนในแนว VI มานานระดับหนึ่ง หรือได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าทั้งของไทยและของฝรั่ง น่าจะคุ้นเคยกับอัตราส่วน 3 ตัวที่เขียนไว้ที่ชื่อเรื่องในวันนี้…

ยังไงสำหรับคนที่อาจจะยังเป็นมือใหม่ ผมจะขอทบทวนความหมายของอัตราส่วนทั้ง 3 ตัวอีกรอบนะครับ

P/E – ย่อมาจาก Price/Earning per Share ถ้าสมมติว่ากำไรของบริษัทไม่เติบโตเลย P/E จะหมายถึงระยะเวลาคืนทุน เช่น P/E 5 เท่าหมายถึงระยะเวลาลงทุน 5 ปี … P/E นี่ยิ่งต่ำยิ่งดีครับ

P/BV – ย่อมาจาก Price/Book Value ซึ่ง Book Value นี่จริงๆก็คิดมาจากส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) หารด้วยจำนวนหุ้น … ยิ่งเราซื้อหุ้นได้ต่ำกว่า BV มากเท่าไหร่ (P/BV ต่ำ) ก็หมายความว่าเราสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท ซึ่งตามตำราทั่วๆไปก็จะบอกว่า P/BV ยิ่งต่ำยิ่งดี ตัวเลขมาตราฐานที่มักจะใช้เป็นฐานก็คือเลข 1 เท่า

ROE – ย่อมาจาก Return on Equity หรือกำไรสุทธิหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นอัตราส่วนที่ Buffett นั้นให้ความสำคัญค่อนข้างมาก ความหมายของ ROE นั้นเป็นตัวที่บ่งบอกว่า เงินที่บริษัทเก็บเอาไว้ทุกบาทนั้น บริษัทสามารถนำไปทำให้งอกเงยได้ในอัตราผลตอบแทนเท่าไหร่ … เพราะฉะนั้น ROE ยิ่งสูงก็ยิ่งดี ตัวเลขมาตราฐานที่มักจะใช้กันคือความสูงกว่า 12 – 15% อย่างต่อเนื่องหลายๆปี

Read More »

0 ความคิดเห็น :

การวิเคราะห์เศรษฐกิจ

การวิเคราะห์เศรษฐกิจ


                 การวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic analysis) เป็นขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งจะต้องทำก่อนเพื่อให้ทราบถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและจะมีแนว โน้มเป็นอย่างไรในอนาคต 

                1.1.ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เนื่องจากระยะนี้เศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในภาวะถดถอยจะเกิดภาวะเงินฝืดและตึงตัว (Deflation and tight money) ให้กำไรของธุรกิจต่างๆมีแนวโน้มลดลง การลงทุนในหุ้นให้ผลตอยแทนไม่ดีเท่ากับลงทุนในพันธบัตร ผู้ถือพันธบัตรได้ดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดไว้ในพันธยบัตร ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยลดลงทำให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้น

                1.2.ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) ระยะเศรษฐกิจช่วงนี้เริ่มฟื้นตัวภาวะเงินคลายตัว และดอกเบี้ยมีอัตราลดลงไปแล้วจากภาวะถอถอย ทำให้ต้นทุนด้านการเงินต่ำลง ส่งผลให้ธุรกิจมีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้นการลงทุนในช่วงระยะเวลานี้นักลงทุนจะโยกย้ายเงินจากตลาดพันธบัตรไปสู่ตลาดหุ้น

Read More »

0 ความคิดเห็น :

ปรับฐานคืออะไร

ปรับฐานคืออะไร

ช่วงเวลานี้ หุ้นไทยกำลังทะยานขึ้นจากการตกต่ำเมื่อหลายปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2551) ดัชนีทำ New High ในรอบสิบกว่าปีอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อหุ้นได้เพิ่มราคาปรับตัวขึ้นมามากๆ ก็มักจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า "การปรับฐาน" แทรกซ้อนอยู่ด้วยเสมอๆ สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ แล้ว อาจจะงงกับภาษาของตลาดค้าหุ้นนี้ ว่ามันคืออะไร เลยขอยกมาอธิบายไว้ตรงนี้นะครับ

การปรับฐาน ภาษาต่างด้าวเรียกว่า Correction ครับ เวลาไปได้ยินคำนี้เกี่ยวกับการลงทุน จะได้นึกออกนะครับว่าคืออะไร แต่สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ๆ อาจจะสงสัยก็คือ มันคืออะไรและมักจะเกิดจากอะไร มาลองดูกันนะครับ

Read More »

0 ความคิดเห็น :

จุดเวลาที่ควรซื้อ-ขายหุ้น



 http://i.istockimg.com/file_thumbview_approve/1328278/2/stock-photo-1328278-stock-market-loss.jpg


จุดเวลาที่ควรซื้อ-ขายหุ้น

1) ซื้อเมื่อบริษัทชั้นยอดทำความผิดพลาด ซึ่งเกิดขึ้นในครั้งเดียวและสามารถแก้ไขได้ในครั้งเดียว ไม่มีภาระผูกพันเกิดขึ้นไม่ว่าทางกฏหมาย, ทางการตลาด, กับลูกค้า เป็นต้น เหตุการณ์เช่นนี้จะทำให้หุ้นตกลงมามากๆ แต่เพียงชั่วคราว
2) ซื้อเมื่อตลาดเป็นหมีแบบสุดๆ คือ P/E ของหุ้นทุกตัวต่ำมาก คือหุ้นถูกมากๆ และในทางกลับกันก็จะต้องระวังการซื้อหุ้นในตลาดกระทิงเต็มที่ คือเมื่อ P/E > 15 (กรณีของไทย)
3) ขายหุ้นเมื่อมีโอกาสในการลงทุนอื่น (ไม่ใช่เก็งกำไรอื่น) ที่ดีกว่า
4) ขายหุ้นเมื่อบริษัทเสียความสามารถในการแข่งขันไป คือพื้นฐานเปลี่ยนจนทำให้กำไรหดหายหมด
5) ขายหุ้นเมื่อตลาดเป็นกระทิงแบบสุดๆ และหุ้นมีราคาแพงไปมาก ให้ขายเพื่อเอาเงินไปลงทุนในพันธบัตร คือไปพักไว้ก่อน เมื่อตลาดกลับมาเป็นหมีอีกครั้งหนึ่ง ค่อยนำเงินออกมาซื้อหุ้น

Credit >> http://muegao.blogspot.com

0 ความคิดเห็น :

สุดยอด 10 วิธีที่จะทำให้ท่านเจ๊งหุ้นอย่างรวดเร็ว


 

สุดยอด 10 วิธีที่จะทำให้ท่านเจ๊งหุ้นอย่างรวดเร็ว

มีเรื่องเกี่ยวกับหุ้นเขียนไว้เพื่อเป็นเทพแห่งเม่าโดยรวดเร็ว เรียกว่าหมดตัวหรือแม้แต่เป็นหนี้สินติดตามมาก็ยังได้อีก เรียกว่าจะเป็นทางลัดแห่งความเสียหายจากหุ้นก็ว่าได้ ไม่ปรากฏชัดแน่นอนว่าใครเป็นผู้รวบรวมสูตรไว้ แต่อย่างไรก็ตาม มีสูตรอยู่สิบประการดังนี้

1. เวลาหุ้นลงมีเท่าไหร่อย่าเพิ่งขาย ไม่ขายไม่ขาดทุนครับ เก็บไว้นานๆ โดยเฉพาะหุ้นผลประกอบการแย่ลง เก็บมันไว้ เดี๋ยวมันก็เด้งกลับ แต่ถ้ามันลงไปเกิน 50% แล้ว กลัวมันลงต่อ ให้ขายออกมา ไม่ว่าจะแค่ลงเพราะตกใจชั่วคราว ก็ให้ขายให้หมดแล้วอย่าไปดูมันอีก มันขึ้นก็อย่าไปสนใจปล่อยมันไปซะ

2. เวลาหุ้นลงข่าวร้ายเยอะๆ อ่านข่าวมันเข้าไป กลัวให้มากๆ อย่าไปซื้อตอนข่าวร้ายเต็มตลาดเด็ดขาด เพราะมันไม่น่าซื้อ เดี๋ยวมันจะต้องลงต่ออย่างแน่นอน ถึงฝรั่ง กองทุนจะอัดซื้อจำนวนมหาศาลก็ปล่อยเขาไปเดี๋ยวเขาก็เจ๊งเอง

3. หุ้นราคาขึ้นมานิด ได้กำไรมาหน่อยเดียวให้รีบขายทิ้งซะ อย่าโลภ เดี๋ยวกำไรหาย ให้ขายทิ้งให้หมดเลย ไม่งั้นจะติดดอยต่อได้

Read More »

0 ความคิดเห็น :

วิธีการ Stop loss เพื่อรักษาเงินลงทุน


 
วิธีการ Stop loss เพื่อรักษาเงินลงทุน

ตามปกติแล้ววิธีการ Stop loss มักจะใช้เพื่อจุดประสงค์ใน 2 กรณี กล่าวคือ

1. ใช้เพื่อหยุดการขาดทุน เพื่อปกป้องเงินลงทุนเริ่มต้น และ

2. ใช้เพื่อปกป้องผลกำไรที่กำลังลดน้อยลง

ซึ่งในกรณีที่เรานำหลักการ Stops ไปใช้งานร่วมกับอินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือวิเคราะห์ทาง เทคนิคที่มีอยู่ เราก็จะสามารถแบ่งชนิดของการ Stops ได้ออกเป็น

Initial stop

Break-even stop

Trailing stop


Read More »

0 ความคิดเห็น :

ข้อมูลสำหรับนักลงทุน VI




ข้อมูลสำหรับนักลงทุน  Vi นะครับ สำหรับจะหาหุ้นสักตัว หาราคาที่เหมาะสมเข้าซื้อ

P/E
P/BV
PEG
Discount cash flow
Net free cash flow
Net Asset Value
1. มีจุดดีและจุดด้อยอย่างไร
2. เหมาะที่จะประยุกต์ใช้กับบริษัทในแต่ละอุตสาหกรรมใดอย่างไร
ขอขอบคุณ ล่วงหน้าครับ

เป็นคำถามที่ดีครับ

P/E ข้อดีคือวิเคราะห์ไม่ยาก ข้อเสียคือ การใช้ P/E อาจพลาดได้เพราะบริษัทอาจจะมีรายได้หรือรายจ่ายรายการพิเศษแต่ก็แก้ไม่ยาก ด้วยการตัดออก ข้อเสียอีกอย่างคือ P/E ไม่ได้สะท้อนนโยบายทางบัญชีที่ต่างกันเช่น ค่าเสื่อมราคา รวมทั้งไม่ได้สะท้อนถึง Capital expenditure cycle เช่น หุ้นที่เพิ่งตั้งโรงงานกับหุ้นอีกตัวที่เครื่องจักรกำลังหมดอายุไม่ควรมี P/E เท่ากันครับ รวมทั้งไม่ได้สะท้อนถึงหนี้และเงินสดในมือบริษัท บริษัทที่มีเงินสดเหลือเฟือกับบริษัทที่หนี้ท่วม หากปัจจัยที่เหลือเหมือนกันหมดก็ไม่ควร P/E เท่ากันครับ


Read More »

0 ความคิดเห็น :

ปันผลคือพื้นฐานหุ้น


หลักการหรือหัวใจของ Value Investment หรือการลงทุนแบบเน้นคุณค่าก็คือ  การหามูลค่าที่ควรจะเป็นหรือมูลค่า “พื้นฐาน” ของหุ้น  จากนั้นก็ดูว่าราคาหุ้นในตลาดเป็นเท่าไร  ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่คำนวณได้ก็ให้ซื้อ  ถ้าราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานก็ให้ขาย  เพราะนักลงทุนแบบ VI เชื่อว่าในที่สุดราคาหุ้นจะวิ่งเข้าหามูลค่าพื้นฐานเสมอ

คำถามสำคัญ มีอยู่ 2 ข้อ  นั่นคือ  หนึ่ง  มูลค่าพื้นฐานคืออะไร?  มาจากไหน?  อะไรเป็นตัวกำหนดมูลค่าพื้นฐานของหุ้น  พูดง่าย ๆ  คำนวณมูลค่าพื้นฐานอย่างไร?   ข้อสอง เมื่อไรเล่าที่ราคาจะวิ่งเข้าหาพื้นฐาน?  เป็นไปได้ไหมที่ราคาหุ้นอาจจะไม่สะท้อนพื้นฐานเป็นระยะเวลานานมาก  เผลอ ๆ ตลอดไป  กลายเป็นหุ้นที่อาจจะ  “ถูกตลอดกาล”  และถ้าเป็นอย่างนั้น  VI จะได้อะไร?

Read More »

0 ความคิดเห็น :

การลงทุนในอสังหา โปรโมชั่นคืออะไร? เลือกอย่างไร? ภาคแรก

 
รับรองได้ว่า 99.99% ของบ้านและคอนโดที่ขายกันอยู่ในตลาดปัจจุบันจะขาดสิ่งที่เรียกได้ว่า “โปรโมชั่น” ไปไม่ได้ จะเปิดโครงการใหม่ก็มีโปรโมชั่น จะขายหน้าสวนหน้าสระก็มีโปรโมชั่น พอวันสิ้นปี วาเลนไทน์ วันพ่อ วันแม่ก็มีโปรโมชั่น ยิ่งพอถึงช่วงจะปิดโครงการยิ่งลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ออกโปรโมชั่น Closing Project มาแบบถล่มทลาย … จนเรียกได้ว่า P ตัวที่ 4 ของทฤษฎีการตลาดที่เรียกว่า “Promotion” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการขายอสังหาริมทรัพย์ไปโดยปริยาย
“แต่” โปรโมชั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการแน่หรือ?


Read More »

0 ความคิดเห็น :

กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทางเลือกในการลงทุน โดย KBANK


กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทางเลือกในการลงทุน 
             มี คำกล่าวว่าเงินเฟ้อคือศัตรูของเงินออม และการลงทุนที่สามารถชนะเงินเฟ้อมีหลายรูปแบบได้แก่ หุ้นหรือการเป็นเจ้าของกิจการที่มั่นคง ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันหากนักลงทุนรายย่อยต้องการที่จะมีส่วนเป็นเจ้าของกิจการที่มีขนาด ใหญ่ก็สามารถทำได้ง่ายผ่านการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือกองทุนรวมตราสารทุนที่ระดมเงินจากรายย่อยไปซื้อหุ้นอีกต่อหนึ่ง สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นนอกจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง แล้ว นักลงทุนสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้นผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บทความนี้จึงขอกล่าวถึงลักษณะและการซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็น อีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน


Read More »

0 ความคิดเห็น :

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ( Real Estate Investment ) ตอนที่ 1 เรื่องข้อกำหนดการเช่า

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ( Real Estate Investment ) เรื่องข้อกำหนดการเช่า

 http://thinkofliving.com/wp-content/uploads/2011/11/calgary_real_estate_rental_425.jpg


วันนี้เราลองมาดูเรื่องของการ “เช่า” กันบ้าง นักลงทุนหลายคนนักที่ชอบซื้อคอนโดมาปล่อยเช่า ก็ต้องถามว่า “ปล่อยเช่า” นั้นมีข้อกำหนดอย่างไร มีเรื่องอะไรที่ต้องรู้ก่อนไหม ไม่ใช่ว่าทำสัญญาเช่าไปอย่างนั้นแล้วสุดท้ายดันผิดสัญญา กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้ตามที่เราระบุในสัญญา พอมีปัญหาก็จะแย่นะครับ


Read More »

0 ความคิดเห็น :

ประโยชน์และโทษของการแข็งค่าของเงินบาท


ไม่นานมานี้เราจะเห็นนักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนหรือซื้อหุ้นในต่างประเทศคึกคักมากไม่ว่าจะเป็น คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี  ที่นำบริษัทในเครือ (
TCC ASSET) เข้าไปซื้อหุ้น F&N (FRASER AND NEAVE) จนถือหุ้นถึง 90.32% F&N เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ โดยเสนอซื้อในราคา 9.55 เหรียญสิงคโปร์ดอลล่าร์ (7.71 เหรียญสหรัฐ)/หุ้น F&N นอกจากจะมีธุรกิจเครื่องดื่มทั้งALCOHOL และ NON ALCOHOL แล้วยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และสิ่งพิมพ์ซึ่งมีมูลค่ารวม 13,750 ล้านเหรียญสิงคโปร์(333,000 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเป็นดีลใหญ่ที่สุด ของการเทคเวอร์ในสิงคโปร์เลยทีเดียว ซึ่งการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ TCC ASSET ต้องแข่งขันกับคู่แข่งนานาชาติไม่ว่าจะเป็น OVERSEA UNION ENTERPRISE (OUE) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติสิงคโปร์โดยร่วมกับ KIRIN บริษัทเบียร์จากญี่ปุ่น โดยถ้าประมูลชนะได้ทาง OUE จะเอาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ KIRIN จะได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มไป แต่ในที่สุด TCC ASSET ของเจ้าสัวเจริญเป็นผู้เสนอราคาสูงสุด และได้ F&N ไปครอง โดยมีการขึ้นราคารับซื้อแข่งกันอยู่หลายครั้ง  ซึ่งคาดว่าคงนำมาต่อยอดกับธุรกิจในเครือซึ่งมีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโรงงานขวดแก้ว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือได้เป็นอย่างดี

Read More »

0 ความคิดเห็น :

การเลือกซื้อหุ้นเข้าพอร์ต

 
การเลือกซื้อหุ้นเข้าพอร์ต
 
          สำหรับนักลงทุนที่ไม่ขยันทำการบ้าน การซื้อหุ้นตาม SET50 หรือ SET100 ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้าสู่ตารางการคำนวณ ปีละ 2 ครั้ง โดยแบ่งเป็น 1 มกราคม - 30 มิถุนายน และ 1 กรกฎาคม -31 ธันวาคม โดยสามารถดาวน์โหลดรายชื่อหุ้นดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ (www.set.or.th) ทุกครั้งที่มีการถอดหุ้นเดิมออกจากการคำนวณและการเพิ่มหุ้นใหม่เข้าไปแทน จะมีผลต่อราคาหุ้นดังกล่าว โดยหุ้นที่ถูกถอดออกไปราคาก็จะตกลง  ขณะที่หุ้นใหม่ที่ถูกเลือกเข้าไป ราคาก็จะสูงขึ้น โดยหุ้นใน SET50 จะมีผลกระทบมากกว่า SET100 อาจจะเป็นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับหุ้นตัวใหญ่ใน SET50 โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่บริหารพอร์ตโดยอิงกับ SET50 ก็อาจจะมีการสับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตที่บริหารอยู่ตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์ นอกจาก SET50 และ SET100 แล้ว ปัจจุบันยังมีอีก 2 INDEX คือ SETHD (SET HIGH DIVIDEND 30 INDEX) และ FTSE SET INDEX โดย SETHD เริ่มมีตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2554 โดยตลาดหลักทรัพย์จะเลือกหุ้นที่จ่ายปันผลดี โดยดูย้อนหลัง 3 ปี ส่วน FTSE SET INDEX ประกอบไปด้วย 6 ดัชนีย่อย คือ

Read More »

0 ความคิดเห็น :

ข่าวการศึกษา