ใน S2M นี่ต้องยอมรับกันว่า เป็นศูนย์กลางนักลงทุนรายย่อย ที่โตขึ้นเรื่อยๆ
ทุกอย่างแม้ว่าจะไม่ได้เริ่มจากศูนย์ มีทุนเดิมอยู่เล็กน้อยจากการรวมตัวกลุ่มเล็กๆ
ในหลักสิบคนที่เข้ามาพูดมาคุยกันทุกๆวันในบอร์ดเล็กๆ เมื่อปี 2006 หรือ 6 ปีก่อน
ปี 2007 แตะ 1,000 คน
ปี 2008 แตะ 3,000 คน
ปี 2009 แตะ 7,000 คน
ปี 2010 แตะ 10,000 คน
ปี 2011 แตะ 20,000 คน
ปี 2012 แตะ 30,000 คนต่อวัน
เรายินดี และดีใจอย่างสูงที่ได้เป็นศูนย์รวมของคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน
การนำเสนอ ก็พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ ในจุดที่พอดีๆ ไม่มากไปหรือน้อยไป
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังมีความไม่สมบูรณ์อยู่
โดยจุดที่ไม่สมบูรณ์นี้แหละ เป็นโจทย์ให้เราได้นำมาขบคิด และหาทางแก้ไข-เติมเต็มอย่างดีที่สุด เท่าที่ทีมงานทำกันได้
แน่นอนว่า ตอนนี้เว็บโตขึ้น ทีมงานมากขึ้น เราต้องทำอะไรได้มากขึ้น ดีขึ้นแน่นอน
นั่นคือสิ่งที่เราทุ่มเท เพื่อตอบแทนทุกๆท่านที่สนับสนุนเรา
ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิก แค่การเข้ามาติดตาม
เราก็รู้สึกดีมากๆแล้ว
Pages
▼
Pages - Menu
▼
วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556
อยากเล่นหุ้น สอนหุ้นมือใหม่ แนะนำหุ้นเด่น
ประเด็นที่ 1
ที่ผมบอกว่าให้แยกกันชัดเจนระหว่าง “เงินเก็บ” กับ “เงินลงทุน” ห้ามโยกเงินไปมาระหว่าง 2 กองนี้เด็ดขาด
เพราะว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง” ................. เสี่ยงต่ออะไรบ้าง?
****** อย่าเอา “เงินเก็บ” มาลงทุนเด็ดขาดดดดดดด ******
เพราะว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง” ................. เสี่ยงต่ออะไรบ้าง?
- ขาดทุน ตรงไปตรงมา
- ติดดอย แปลว่า เงินมี แต่เอาออกมาไม่ได้ เพราะราคาหุ้น ร่วงลงไปถูกกว่าตอนที่ซื้อมา ขืนขายก็ขาดทุน เลยทำอะไรไม่ได้ ต้องรอร้อรอ ให้ราคาสูงขึ้นมาเท่าทุน ซึ่งอาจต้องรอเป็นปีก็ได้
- ขายไม่ออก เกิดกับหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ ถึงแม้เรามีกำไรจะขายแล้ว แต่ชะเง้อคอตั้งขายทั้งวันก็ไม่มีใครซื้อ
- เจ๊งกะบ๊ง คือ WORST CASE ที่เคยเกิดกับผมมาแล้ว เพราะไปซื้อหุ้น ITV ไว้สมัยฟู่ฟ่า แต่ต่อมาบริษัทเจีง ใบหุ้นของเรากลายเป็นกระดาษเช็ดก้นทันที เงินนับแสน กลายเป็น 0 ในพริบตา
****** อย่าเอา “เงินเก็บ” มาลงทุนเด็ดขาดดดดดดด ******
คู่มือการใช้งาน MetaTrader 4 (MT4)
เริ่มต้น
ถ้าใครยังไม่เข้าใจเรื่องศัพท์ต่างๆ ให้เข้าไปอ่านได้ที่หน้านี้ครับ https://www.facebook.com/fxclearingthailand/app_128953167177144
โปรแกรม MT4
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่ http://tha.fxclearing.com/download
การ Log in
1) คลิกที่เมนู File -> Log in ดังรูป

2) ใส่หมายเลขบัญชีและรหัสผ่านลงไป ตรงช่อง Server ถ้าเป็นบัญชีเทรดจริงให้เลือกเป็น FxClearing-Main2 (สำหรับบัญชี FXClearing.com) หรือ FxClearing-Main (สำหรับบัญชี FXClearing.ca) ถ้าเป็นบัญชีทดลอง (Demo) ให้เลือกเป็น FxClearing-Demo
Free Float คือ อะไร Free Float ดูอย่าไร
| ค่า free float ของหุ้นในแต่ละบริษัทจดทะเบียนเป็นข้อมูลที่แสดงถึงจำนวนหุ้นที่ผู้ลงทุน ทั่วไปสามารถเข้าถึงเพื่อการซื้อขายได้ปกติ โดยหลักการ หุ้น free float คือหุ้นที่ไม่ได้ถือโดยนักลงทุนกลุ่ม strategic shareholder และไม่ได้เป็นหุ้นที่ซื้อคืน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจนว่าผู้ถือหุ้นคนใดหรือกลุ่มใดเป็น strategic shareholder ฝ่ายวิจัยและยุทธศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงได้ประมาณการค่า free float เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามข้างล่างนี้ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีความเห็นว่าตัวเลขยังไม่ถูกต้อง สามารถติดต่อฝ่ายวิจัยและยุทธศาสตร์เพื่อปรับปรุงค่า free float (freeflo@sec.or.th) | |||
เส้นค่าเฉลี่ย EMA คือ อะไร ดูอย่างไร
เส้นค่าเฉลี่ย หรือ Moving Average
นับเป็นเครื่องมือสำคัญ เครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยมีส่วนช่วยในการมองเห็นถึงแนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น รวมถึงจุดที่เปลี่ยนแนวโน้ม เพื่อเป็นสัญญาณซื้อขาย รวมถึงแนวรับแนวต้าน ของราคาหุ้นในช่วงเวลาต่างๆ
ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนนั้น จะกำหนดเส้นค่าเฉลี่ย ในจำนวนวันที่แตกต่าง กัน ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาการลงทุนของแต่ละบุคคล หรือรอบการเคลื่อนที่ของหุ้นตัวนั้น ว่าการกำหนดด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเท่าใด ที่น่าจะได้ผลตอบแทนสูงที่สุด
โดยเส้นค่าเฉลี่ยที่ใช้กันทั่วไปมีตั้งแต่
5 วัน (1 สัปดาห์) ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
10 วัน (2 สัปดาห์) ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
25 วัน (ประมาณ1 เดือน) ใช้สำหรับการลงทุนระยะค่อนข้างปานกลาง
75 วัน (ประมาณ1 ไตรมาส) ใช้สำหรับการลงทุนระยะกลาง
200 วัน (ประเมาณ 1 ปี) ใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว
ซึ่งจำนวนวันเหล่านี้จะเป็นตัวบอกถึงราคาต้นทุนเฉลี่ยของคนที่ถือหุ้นมาแล้วในช่วงระยะเวลา แตกต่างกันเช่น
นับเป็นเครื่องมือสำคัญ เครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยมีส่วนช่วยในการมองเห็นถึงแนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น รวมถึงจุดที่เปลี่ยนแนวโน้ม เพื่อเป็นสัญญาณซื้อขาย รวมถึงแนวรับแนวต้าน ของราคาหุ้นในช่วงเวลาต่างๆ
ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนนั้น จะกำหนดเส้นค่าเฉลี่ย ในจำนวนวันที่แตกต่าง กัน ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาการลงทุนของแต่ละบุคคล หรือรอบการเคลื่อนที่ของหุ้นตัวนั้น ว่าการกำหนดด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเท่าใด ที่น่าจะได้ผลตอบแทนสูงที่สุด
โดยเส้นค่าเฉลี่ยที่ใช้กันทั่วไปมีตั้งแต่
5 วัน (1 สัปดาห์) ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
10 วัน (2 สัปดาห์) ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
25 วัน (ประมาณ1 เดือน) ใช้สำหรับการลงทุนระยะค่อนข้างปานกลาง
75 วัน (ประมาณ1 ไตรมาส) ใช้สำหรับการลงทุนระยะกลาง
200 วัน (ประเมาณ 1 ปี) ใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว
ซึ่งจำนวนวันเหล่านี้จะเป็นตัวบอกถึงราคาต้นทุนเฉลี่ยของคนที่ถือหุ้นมาแล้วในช่วงระยะเวลา แตกต่างกันเช่น
RSI คือ อะไร และ ดูอย่างไร
RSI คืออะไร?
เทคนิคการลงทุนด้วย RSI อะไรที่ซื้อมากเกินไป ต้องระวัง อะไรที่ขายมากเกินไป ต้องเตรียมพร้อมซื้อ
RSI คือ การแกว่งแบบโมเมนตัม ที่ วัดความเร็ว และ การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของราคา RSI แกว่งระหว่าง 0 ถึง 100 โดยทั่วไป RSI จะถูกนำมาพิจารณา ขอบเขตซื้อมากเกินไป เมื่อ ค่าเหนือกว่า 70 และ ขายมากเกินไป เมื่อ ค่าต่ำกว่า 30. RSI สามารถใช้ระบุแนวโน้มราคาทั่วไปได้อีกด้วย